ติวนอกตำรา
ติวนอกตำรา เล่าเรื่องเสียว “ไปก่อนนะปุ๊ก แล้วเจอกัน”เสียงของเพื่อนๆที่พูดขึ้นพร้อมกับโบกไม้โบกมือร่ลาเพื่อนสาวก่อนที่จะแยกย้ายกันไปคนละทาง“จ้าาแล้วเจอกันวันจันทร์”เธอร่ำลาตอบกับเพื่อนสาวโบกมือพร้อมกับเดินออกมาเพื่อไปขึ้นรถเมล์ที่หน้ามหาลัยที่ป้ายรถเมล์ใช้เวลายืนรอเพียงแค่4-5นาทีก็มีรถสายที่ต้องการซึ่งผ่านปากซอยหน้าบ้านของเธอเข้ามาจอดเธอขึ้นรถไปยืนแบบไม่เบียดเสียดนักเพราะไม่ใช่ช่วงเวลาเร่งรีบใช้เวลาจากป้ายรถเมล์หน้ามหาลัยเพียง15นาทีก็ถึงหน้าปากซอยบ้านเธอเธอลงจากรถเมล์มาต่อรถสองแถวเล็กๆที่คอยบริการผู้คนในหมู่บ้านนี้อยู่ทุกวันรถขับพาเธอเข้ามาส่งลงตรงปากซอยส่วนในของหมู่บ้านพอจวนจะถึงหน้าปากซอยของบ้านของเธอเธอก็กดออดเพื่อบอกให้คนขับจอดเมื่อถึงซอยของเธอพอรถสองแถวจอดสนิทเธอก็ถือแฟ้มที่ใส่ชีทแนบกับลำตัวพร้อมกับสะพายกระเป๋าถือเดินลงจากรถมาจ่ายเงินค่าโดยสารกับคนขับพอจ่ายตังค์เป็นที่เรียบร้อยแล้วเธอก็เดินเท้าเข้าไปอีกเพียงเล็กน้อยก็ถึงหน้าบ้านของเธอเธอหยุดยืนอยู่หน้าประตูเลื่อนสีน้ำตาลก่อนจะควักกุญแจออกมาไขประตูเล็กเข้าไปในบ้านเธอเดินผ่านพ้นจากความร้อนของไอแดดข้างเข้ามาสู่ความร่มเย็นของบ้านของเธอเธอแหงนหน้ามองบ้านของเธอบ้านที่เป็นบ้านไม้สองชั้นที่ถึงแม้จะดูเก่าโทรมไปบ้างเนื่องจากอายุการใช้งานที่ยาวนานก่อนเธอเกิดซะอีกแต่มันก็เป็นบ้านที่เธอรักและผูกพันในฐานะที่อยู่อาศัยของเธอมาตั้งแต่เกิดจนอายุ19ปีบ้านที่ถึงแม้ขนาดจะเล็กไปหน่อยตามประสาบ้านในโครงการหมู่บ้านจัดสรรที่พ่อแม่ของเธอจะมีปัญญาผ่อนซื้อได้ในตอนนั้นแต่มันก็เป็นบ้านเล็กๆที่สงบร่มเย็นข้างๆบ้านมีต้นมะม่วงต้นใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าต่างห้องนอนของเธอพอดีพอเธอตื่นเช้าขึ้นมาก็จะมองเห็นเจ้ามะม่วงต้นนี้อยู่ทางขวามือกับมองเห็นท้องทุ่งทางหลังบ้านที่อยู่ในทิศทางที่ปลายเท้าของเธอชี้ไปพอดีเธอรู้สึกดีใจที่วันนี้ได้กลับบ้านเร็วกว่าปกติเพราะวันนี้อาจารย์ประกาศงดเรียนวิชาในตอนบ่าย“วันนี้อากาศดีน่านอนอยู่กับบ้านซะมากกว่าออกไปเรียนเป็นไหนๆ”เธอคิดในใจเธอเดินมาถึงประตูทางเข้าบ้านมองเห็นรองเท้าแตะมากมายวางกองอยู่เธอก็รู้ทันทีว่าเป็นของใครเธอถอดรองเท้าเก็บบนชั้นพร้อมกับคิดในใจ“มาทำลายวันที่แสนสงบของชั้นอีกแล้วพวกนี้”พวกนี้ที่เธอพูดถึงก็คือเพื่อนๆของน้องชายของเธอนั่นเองเจ้าป่องน้องชายตัวแสบของเธอที่ตอนนี้อายุ12ปีพอดีมักจะพาเพื่อนๆมาเล่นด้วยกันที่บ้านเสมอ...